แม่แจ้งทนายดัง ลูกชายโดนลูกหลงในผับตาบอดสนิท

แม่แจ้งทนายดัง ลูกชายโดนลูกหลงในผับตาบอดสนิท

วานนี้ (7 ก.ย.) น.ส.นวลฉวี อายุ 52 ปี ได้นำลูกชายคือ นายณัฐชัย อายุ 28 ปี อาชีพช่างสักลายซึ่งพิการตาบอด เข้าพบทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อให้ช่วยติดตามความคืบหน้าคดีที่ลูกชายของตนถูกลูกหลงถูกขวดโซดาปาใส่หน้าขณะที่กลุ่มวัยรุ่นเกิดทะเลาะวิวาท ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และดวงตาข้างซ้ายจนต้องผ่าตัดเอาลูกนัยน์ตาออก ทำให้กลายเป็นคนตาบอด

ส่วนดวงตาด้านขวานั้น ก็บาดเจ็บจนมองเห็นไม่ชัดเจน โดยคดีนี้ผ่านมาถึง 1 เดือนกว่าแล้ว จับคนกระทำผิดได้ 2 คน แต่ผู้เสียหายยังไม่ได้รับการเยียวยา

เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นที่ สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในซอยแก้วอินทร์ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 02.00 น. โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน เผยให้เห็นว่า เกิดการทะเลาะวิวาทตรงด้านหน้าของโต๊ะผู้เสียหายและมีการขว้างปาสิ่งของใส่กัน จากนั้นผู้เสียหายก็ฟุบหน้าลงหลังจากโดนขวดโซดาขว้างใส่หน้า รอบๆ มีกลุ่มวัยรุ่นวิ่งกันชุลมุน มือถือขวดก่อนจะถูกการ์ดของสถานบันเทิงห้ามไว้และนำขวดออกจากมือ

นายณัฐชัยเผยว่า ตนและน้องชายกับเพื่อนอีก 2 คนไปเที่ยวที่สถานบันเทิงดังกล่าว และระหว่างนั่งดื่มกันอยู่ ก็มีกลุ่มวัยรุ่นสองกลุ่มทะเลาะวิวาทกัน จากนั้นหนึ่งในสองฝ่ายซึ่งเป็นคนรู้จักกันได้วิ่งมาหลบที่โต๊ะตน และได้มีนายบีม (นามสมมติ) อายุประมาณ 25-30 ปีซึ่งอยู่กลุ่มตรงข้าม วิ่งตามมาและขว้างขวดโซดามาที่โต๊ะตน และถูกเข้าที่ใบหน้าตนใกล้ดวงตาข้างซ้ายทำให้เศษแก้วจากขวดกระเด็นใส่ตาทั้งสองข้าง

ดวงตาข้างซ้ายนั้นมีเศษแก้วพุ่งทะลุดวงตา เพื่อนตนจึงรีบพาตนขึ้นรถส่งโรงพยาบาล น้องชายตนเห็นเลือดออกเต็มใบหน้าและเสื้อผ้า จึงได้ตะโกนถามกลุ่มดังกล่าวว่า ‘ปาขวดใส่พี่ผมทำไม’ จึงถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายบาดเจ็บไปด้วย ตน เพื่อน และน้องชายจึงได้ขับรถหนีออกจากลานจอดรถ กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มเดิมยังไม่ลดละ ตามมาขว้างปาขวดโซดาใส่กระจกรถจนด้านหลังรถแตก

ตนได้เข้ารักษาตัวที่รพ.พระนั่งเกล้า และแพทย์ต้องควักลูกตาออกเพราะลูกตาแตกและเกรงว่าจะทำให้ติดเชื้อ ส่วนนัยน์ตาข้างขวานั้น ได้รับการเย็บที่ตาขาว ขณะที่ใบหน้าเย็บทั้งหมด 40 เข็ม ส่วนน้องชายตนนั้นคิ้วแตกต้องเย็บ 5 เข็ม และตอนนี้ยังไม่สามารถสักลายได้ตามเดิมเพราะตาข้างที่เหลือมองเห็นไม่ชัด

ด้านผู้เป็นแม่ กล่าว่า เมื่อเห็นลูกบาดเจ็บก็เครียดทำงานไม่ได้ ตนได้ติดต่อไปทางร้อยเวรที่รับเรื่องเพื่อติดตามคดีหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบเรื่องการเยียวยา ลูกชายตนไม่เกี่ยวกับการทะเลาะวิวาท แต่กลับโดนลูกหลงบาดเจ็บและไม่มีใครรับผิดชอบ อีกทั้งเมื่อแฟนลูกชายเอาเรื่องนี้โพสต์ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาแชร์และมีคนเข้ามาแสดงความติดเห็นว่า “อย่างนี่ต้องตบ จับให้แล้วมาโพสต์ทำไม”

ทุกวันนี้ ตนจึงไม่กล้าถามหาความคืบหน้ากับทางตำรวจอีกเลย 

เพราะกลัวจะไม่ปลอดภัย และตำรวจเองก็รู้จักบ้านของตน จึงได้นำรื่องนี้มาร้องเรียนกับทนายรณรงค์ไห้ช่วยติดตามคดีและเรื่องการเยียวยา ขณะที่ทางทนายรณรงค์ กล่าวว่า อยากให้ทาง สภ.บางใหญ่ ชี้แจงก่อนว่าในวันเกิดเหตุมีการทะเลาะวิวาทชุลมุนกันมีผู้ร่วมในเหตุการณ์กี่คน เพราะที่ฟังผู้เสียหายเล่าไม่น่าจะแค่ 8 คน น่าจะมีอีกกลุ่มหนึ่ง ตนอยากให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และถ้าผู้เสียหายไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องทะเลาะวิวาท ทั้งหมดต้องร่วมกันชดใช้มา และทางกฎหมายแพ่งก็มีการชดใช้อยู่แล้วถ้าคู่กรณีไม่จ่ายต้องให้ศาลสั่ง

นอกจากนี้  นายณัฐชัยก็ถือว่ามีความพิการตามกฎหมายซึ่งกองทุนยุติธรรมมีมาตรการเยียวยาให้ โดยคดีต้องตำรวจสรุปสำนวนคดีว่ามีผู้ร่วมกระทำผิดกี่คน โดยแม่ผู้เสียหายเรียกไป 5 ล้านบาท และขอไปเป็นโจทย์ร่วมกับพนักงานอัยการ และหลังจากนี้ตนจะไปตามคดีที่สภ.บางใหญ่

ขณะที่ผู้ต้องหาทั้งหมดเล่าว่าพวกตนรวมกลุ่มกันใช้ชื่อแก๊งริมคลอง 2499 โดยมีสมาชิก 7-8 คน และสับเปลี่ยนกันก่อเหตุไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง ทรัพย์สินที่ได้ส่วนใหญ่อยู่ที่หลักร้อยถึงหลักพัน ส่วนอาวุธที่ใช้นั้นพวกตนได้นำไปซ่อนไว้ใกล้จุดเกิดเหตุเพื่อให้สะดวกในการลงมือครั้งต่อไป

โดยจากข้อมูลเผยว่า วัยรุ่นกลุ่มนี้เคยทำร้ายผู้เสียหายเพื่อปล้นทรัพย์สิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานท้องที่ สน.ธรรมศาลา และผู้เสียหายรายอื่นๆ เพื่อนำข้อมูลมาติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุที่เหลือในคดีก่อนหน้ามาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ตำรวจสน.ดินแดงได้ตามหาเพื่อนของนายโจ้ และให้ช่วยโทรศัพท์ไปพูดเกลี้ยกล่อมให้นายโจ้ รีบนำกระบะที่ก่อเหตุลักไปเป็นคันที่ 2 เข้ามอบตัวกับตำรวจ

กระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น. เพื่อนๆ และญาติสามารถติดต่อนายโจ้ได้ โดยเจ้าตัวสารภาพว่าทำไปเพราะเลียนแบบเกม GTA ที่ตัวเองชอบเล่น และยอมให้ตำรวจควบคุมตัวไป อย่างไรก็ตาม ตำรวจไม่พบรถกระบะที่ถูกขโมยอยู่กับนายโจ้ อีกทั้งนายโจ้อยู่ในอาการมึนเมาพูดจาวกไปวนมา จึงถูกนำตัวไปสงบสติอารมณ์ที่สน.ดินแดง พร้อมเร่งตามหารถกระบะคันดังกล่าว

 ขณะนี้ นายโจ้ยังไม่ถูกแจ้งข้อหา โดยตำรวจรอญาตินำเอกสารบันทึกการรักษาอาการป่วยมายืนยัน และได้ประสานผู้เสียหายมารอรับของกลาง พร้อมเจรจากันต่อหน้าเจ้าพนักงานทั้งสองสน.ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป

แนะนำ : เคล็ดลับต่างๆ | เว็บรวมวิธีต่างๆ How to | จัดอันดับซีรีย์ | รีวิวครีม